top of page

ไขข้อสงสัย ทำไมแมวหูพับ ห้ามผสมกับ แมวหูพับ ?

         ก่อนอื่นเลยนะคะ เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานกันสักนิดของแมวพันธุ์ Scottish fold นะคะ แมวพันธุ์นี้นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่หูพับๆ ของมันที่ทำให้ดูน่ารักขึ้น หัวกลมละม้ายคล้ายโดเรมอน


แต่ความจริงแล้วนั้น แมวพันธุ์นี้ไม่ได้มีแต่เฉพาะหูพับเท่านั้น ยังมีลักษณะหูตั้งตามปกติด้วย เราจึงสามารถแยกแมวพันธุ์นี้ออกเป็น 2 กลุ่มได้ง่ายๆ คือ

รวมพล.jpg

แมวหูตั้ง (Straight Ears)

31363341_1494874797289298_49637060606081

แมวหูพับ (Fold Ears)

1. แมวหูตั้ง Straight ears ลักษณะปลายหูจะชี้ขึ้นฟ้า ตั้งตรงสนิท ฐานหูกว้าง

เจ้ายีนส์หูพับนี้ ถือว่าเป็น ลักษณะที่ผิดปกติ ไปจากสิ่งที่ควรจะเป็น

(นึกง่ายๆค่ะ แมวทั่วโลกหูตั้งหมด มีมันพันธุ์เดียวดันหูพับ)

ในทางการแพทย์นั้นถือได้ว่าเจ้ายีนส์หูพับนั้นเป็น

" โรคทางพันธุกรรม (Genetic disease)" กันเลยทีเดียว

scottish-folds-scottish-fold-cat-ears-fo

===ทำไมทางการแพทย์ถึงมองว่ามันเป็น "โรคทางพันธุกรรม" ???===

จริงๆแล้ว "ยีนส์หูพับ" นี้ มันไม่ได้ทำให้แค่หูเกิดการพับ หากพูดให้ชัดเจนและครอบคลุมก็คือ

เป็นยีนส์ที่ทำให้กระดูกอ่อนของร่างกายเกิดการบิดงอ ผิดรูป ขาดการยืดหยุ่น ดังนั้นจุดที่เป็นกระดูกอ่อนและเห็นชัดที่สุดก็คือ "หู" ซึ่งในร่างกายนั้น ไม่ได้มีกระดูกอ่อนแค่หูเท่านั้น

ยังมีส่วนอื่นๆในร่างกายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตามข้อต่อต่างๆ หรือหรือหมอนรองกระดูกสันหลังเป็นต้น

การมียีนส์หูพับตัวนี้อยู่จึงอาจมีการส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆในร่างกายได้อีก ทางการแพทย์จึงให้มันเป็น "โรคทางพันธุกรรม"

===แสดงว่าแมวหูพับทุกตัวไม่แข็งแรง เป็นโรคหนะสิ ???===

การที่เราตราหน้าว่าแมวหูพับทุกตัวนั้นไม่แข็งแรง เป็นโรคนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว

เราต้องมาทำความเข้าใจเรื่องยีนส์กันสักหน่อยนะคะ


ยีนส์ในหูแมวของสายพันธุ์นี้ แบ่งออกเป็น 2 ยีนส์นะคะ คือ

1. ยีนส์หูพับ "Fd" ซึ่งยีนส์นี้เป็นยีนส์เด่น ที่สามารถข่มยีนส์หูตั้งไม่ให้แสดงออกมาได้

2. ยีนส์หูตั้ง "fd" ซึ่งยีนส์นี้เป็นยีนส์ด้อย ที่ให้ลักษณะหูตามปกติของแมว

ในแมวนั้นจะมีรหัสของยีนส์หูอยู่ 1 คู่ (2 ยีนส์) พอมาลองจับคู่ยีนส์ทั้ง 2 ดูจะได้เป็น

แมวหุพับ FdFd แบบนี้เรียกว่า แมวหูพับ เป็นโรคทางพันธุกรรม

แมวหูพับ Fdfd แบบนี้เรียกว่า แมวหุพับ ปกติ

แมวหูตั้ง fdfd แบบนี้เรียก แมวหูตั้ง นะจ๊ะ อิอิ

===ทำไมแมวหูพับ ที่เป็น FdFd ถึงเรียกว่าเป็นโรค แต่ Fdfd กลับเรียกว่า ปกติ???===

ยีนส์หุพับนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นยีนส์เด่นที่สามาถข่มยีนส์หูตั้งได้ก็จริง แต่ตัวมันไม่สามารถข่มได้ 100% พอมีลักกษณะเป็นแบบ Fdfd เจ้ายีนส์หูตั้งจึงช่วย "ลดโอกาส" อาการผิดปกติของกระดุกอ่อนลุกลามไปที่ส่วนอื่นๆของร่างกายมากนัก จนส่งผลให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตของแมวได้

(ก็ยังเสี่ยงมีโอกาสพิการได้อยู่นะคะ ซึ่งบางครั้ง อาจยังพบอาการผิดปกติได้ เช่น หางสั้น ข้อหางไม่ยืดหยุ่น ขาปัด เป็นต้น)

ในทางกลับกัน แมวหูพับที่เป็นแบบ FdFd นั้นมียีนส์หูพับแบบ 100% ไม่มียีนส์หูตั้งมาช่วยลดโอกาสความเสี่ยงอาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้น จึงแน่นอนว่า แมวหุพับแบบนี้มีปัญหาด้านกระดูกอ่อนทั้งตัวมาด้วยแน่ๆ

ซึ่งอาการจะไม่ค่อยเห็นในลูกแมวสักเท่าไหร่ แต่จะฟ้องเมื่อแมวมีอายุได้ประมาณ 1 ขวบ ได้ชัดเจน

ส่วนแมวหูตั้งนั้น ไม่มียีนส์หูพับอยู่เลย จึงไม่มีความผิดปกติด้านกระดุกอ่อนแฝงมาด้วย

(แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพิการไม่ได้นะคะ หากพ่อแม่มีอาการผิดปกติออกมาแล้ว ยังเอาไปผสมต่อกส่งต่อให้ลุกได้เช่นกัน)

คราวนี้เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะคะว่า

===ทำไมจึงไม่ควรนำแมวหูพับ มาผสมกับ หูพับ........===

หากเรานำแมวหูพับที่ปกติสมบูรณ์ มาผสมกับแมวหูตั้ง จะหมายถึง การเอา Fdfd มาผาสมกับ fdfd นะคะ โอกาศที่ลูกจะออกมาแต่ละแบบคือ

2. แมวหูพับ Fold ears ลักษณะของใบหูจะพับลงมา

ตามแต่ระดับการพับของใบหู  

โดยสามรถแยกแยะระดับการพับของหูได้ 3 ระดับ

ซึ่งบางครั้งอากจจะเกิดการดีดทำให้หูตั้งขึ้นจากสภาพอุณหภูมิที่ร้อน

โครงสร้าง การเจ็บป่วย หรือการคลอดลุกของตัวเมียได้ค่ะ

12742354_803334923109959_358676060489598

แมวหูพับ Fdfd 50%
แมวหูตั้ง fdfd 50%


จะเห็นว่าจะไม่มีโอกาศได้ ลูกแมวที่มีความผิดปกติจากโรคพันธุกรรมเลย

แต่หากเรานำแมวหูพับที่ปกติสมบูรณ์ มาผสมกันเอง จะหมายถึง การเอา Fdfd มาผสมกับ Fdfd นะคะ โอกาศที่ลูกจะออกมาแต่ละแบบคือ

12745444_803335706443214_368401014719052

แมวหูพับ FdFd 25%
แมวหูพับ Fdfd 50%
แมวหูตั้ง fdfd 25%


จะเห็นว่าจะมีโอกาศได้ ลูกแมวที่มีความผิดปกติจากโรคพันธุกรรม อยู่ที่ 25%

ซึ่งได้มีการวิจัยเรื่องนี้กันในวงการแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า "การนำแมวหูพับ ผสมกับ หูพับ นั้นเป็นสาเหตุให้เกิดการแสดงโรคทางพันธุกรรม"

1916727_803336979776420_4353957417737785

ภาพกระดูกแมวที่มีปัญหา (A&C แมวอายุ 4 ปี , B&D แมวอายุ 2 ปี)

สนใจอ่านบทความได้ที่ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2868141/

นี้จึงเป็นเหตุผลทั้งหมดว่า ทำไม่จึงไม่ควรนำ แมวหูพับ มาผสมกับ แมวหูพับ นะคะ ไม่ว่าจะพับมาก พับน้อย พับกระจ้อยร่อย ก็ไม่ควร

แล้วยิ่งซ้ำร้ายมีการมาบอกว่า สามารถเอา พับผสมกับ พับ ได้ในคอกแรก ...ขอถามกลับนะคะพอท้องไปแล้วท้องนึง DNA มันจะเปลี่ยนไม๊ค่ะ คำตอบมันก็คือไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะคอกแรก คอกสอง หรือคอกไหนๆ ก็ไม่เปลี่ยน จึงไม่ควรเด็ดขาดค่ะ

ถ้าใครยังอยากเห็นลูกหลานแมวแข็งแรงสมบูรณ์ ขอร้องอย่าทำเลยค่ะ เจอลูกหลานพิการมาคงไม่สนุกนะคะ รักแมวอย่าทำร้ายแมวเลยค่ะ

เพิ่มเติมให้อีกสักหน่อยนะคะ แล้วถ้า “เอาแมวหูตั้ง มาผสมกับ หูตั้ง หละคะ มีโอกาสได้ลูกหูพับไม๊???”

หากเรานำแมวหูตั้ง มาผสมกับแมวหูตั้ง จะหมายถึง การเอา fdfd มาผสมกับ fdfd นะคะ โอกาศที่ลูกจะออกมาแต่ละแบบคือ แมวหูตั้ง fdfd 100%

ตามหลักกการแล้ว ไม่ควรจะได้ลูกแมวหูพับเลย แต่อาจมีกรณีที่ได้ลูกหูพับจากที่มีตัวหูตั้ง ตัวใดตัวหนึ่ง ตามพันธุกรรมแล้วเป็นแมวหูพับ แต่พับน้อยมากจนมองไม่ออกว่าพับ ก็มีสิทธิ์ให้ลูกหูพับได้ เช่นกันค่ะ

แมวหูตั้ง ถึงแม้จะไม่ได้เอายีนส์หูพับมาด้วยก็ตาม แต่ถ้าสายของแมวหูตั้งนั้นมมีพ่อแม่ พี่น้องที่หูพับสวย ตัวแมวหูตั้งนั้นก็เอาลักษณการพับแบบนั้นติดตัวมาด้วย แมวหูตั้งเองจึงมีส่วนสำคัญที่เป็นตัวแปลว่า


ลูกแมวตัวนั้นหูจะพับสวยขนาดไหนด้วยเช่นกัน ดังนั้นอย่ามั่วแต่หาแมวหูพับสวยๆ แต่ละเลยแมวหูตั้งนะคะ อาจได้ลูกไม่สวยอย่างที่ต้องการก็เป็นได้.......

bottom of page